วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561


จันท์สุดา จากเรื่อง นางผมหอม

         นางจันท์สุดา เป็นราชธิดาท้าวพรหมจักรแห่งจันทรนคร นอกจากรูปงามแล้วยังผมหอมอีกด้วย นางมีชีวิตอยู่เป็นสุขจนกระทั่งวันหนึ่งบ้านเมืองก็เกิดอาเพศ  มีนกอินทรียักษ์บินมาโฉบเอาผู้คนไปกินจนเกือบหมดเมือง ด้านท้าวพรหมจักรที่ทรงอับจนหนทาง ด้วยความเป็นห่วงธิดา

แตงอ่อนอรดี จากเรื่อง เจ้าหญิงแตงอ่อน

          เจ้าหญิงแตงอ่อนอรดี เป็นธิดาของกษัตริย์เมืองตะนูวดี มีพี่ชายชื่อ เจ้าชายสุดชฎา
และมีพี่ชายต่างมารดาชื่อ พระไวยราช ทั้งนี้ พระไวยราชถูกมนต์สะกดของอสูรร้ายให้กระทำการชั่วต่าง ๆ นานา ทั้งยึดเมืองและต้องการได้นางแตงอ่อน น้องสาวต่างมารดามาเป็นมเหสี




โสนน้อย จากเรื่อง โสนน้อยเรือนงาม


        
         เมื่อครั้งพระราชธิดาของกษัตริย์นครโรมวิสัยประสูติได้มีเรือนไม้เล็ก ๆ ติดมือออกมาด้วย เมื่อพระธิดาเจริญวัยขึ้น เรือนไม้นี้ก็โตขึ้นตาม ดังนั้น พระบิดาจึงตั้งชื่อพระธิดาว่า โสนน้อยเรือนงาม เมื่อโสนน้อยเรือนงามมีอายุ 15 ปี โหรทูลว่า

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

        
แก้ว จากเรื่อง แก้วหน้าม้า

        นางแก้ว เป็นธิดาสามัญชนชาวเมืองมิถิลา เหตุที่นางมีชื่อเช่นนี้เพราะก่อนตั้งครรภ์ผู้เป็นมารดาได้ฝันว่าเทวดานำแก้วมาให้ แต่เนื่องจากใบหน้าเหมือนม้า ชาวบ้านจึงเรียกว่า นางแก้วหน้าม้า วันหนึ่งนางแก้วเก็บว่าวจุฬาของพระปิ่นทองได้ เมื่อพระปิ่นตามมาขอว่าวคืน นางแก้วจึงขอคำสัญญาว่า 

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561


โมรา จากเรื่อง จันทโครพ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นางโมรา

         เจ้าชายจันทโครพได้ไปศึกษาเล่าเรียนอยู่กับพระฤาษีอัศโมพระโคดมจนกระทั่งสำเร็จวิชา วันหนึ่งพระฤาษีได้มอบผอบทองให้ โดยกำชับกับเจ้าชายจันทโครพว่า อย่าเพิ่งเปิดผอบระหว่างทาง 

นางไอ่ จากเรื่อง ผาแดง-นางไอ่
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นางไอ่ จากเรื่อง ผาแดง-นางไอ่

        เรื่องท้าวผาแดงกับนางไอ่ เป็นตำนานที่ผูกพันกับ ทะเลสาบหนองหาร จ. สกลนคร ตามตำนานเล่าว่าเดิมบริเวณที่หนองหารนั้น เคยเป็นเมืองใหญ่ชื่อว่า เอกชะทีตา มีพระยาขอมองค์หนึ่งปกครองอยู่ พร้อมมเหสีนามว่านางจันทร์เทียม ซึ่งพระยาขอมมีธิดาซึ่งมีรูปโฉมงดงามชื่อ นางไอ่คำ หรือบางทีก็เรียกว่า นางไอ่ 

เอื้อย จากเรื่อง ปลาบู่ทอง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นางเอื้อย จากเรื่องปลาบู่ทอง
        เศรษฐีทารก (อ่านว่า ทา-ระ-กะ) มีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อ ขนิษฐา มีลูกสาวชื่อ เอื้อย ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี มีลูกสาวชื่อ อ้าย และ อี่ วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง 

อุษา จากเรื่อง อุณรุท

พระยายักษ์ชื่อท้าวกรุงพาณ ครองรัตนานคร ประพฤติเป็นพาล ก่อความเดือดร้อนแก่เหล่าเทวดาและนางฟ้า ครั้งหนึ่งทำอุบายลอบเข้าชมนางสุจิตรามเหสีของพระอินทร์ พระอิศวรจึงต้องทูลเชิญพระนารายณ์อวตารลงมาเกิดในเมืองณรงกา

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561


กนกเรขา จากเรื่อง กนกนคร

       พญากมลมิตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในหมู่คนธรรพ์ได้นางอนุศยินีนางฟ้ารูปงามเป็นคู่ครองตามพรของพระอิศวร กมลมิตรคุยโอ้อวดกับเพื่อนคนธรรพ์ถึงความงามของภรรยาของตนว่า อาจยั่วตบะของฤาษีตนหนึ่งได้ ดังนั้น จึงถูกฤาษีสาปลงมาเกิดในโลกมนุษย์



ทิพเกสร จากเรื่อง ลักษณวงศ์

      ท้าวพรหมทัต มีมเหสี ชื่อ สุวรรณอำภา และมีพระราชโอรส ชื่อ ลักษณวงศ์ วันหนึ่งท้าวพรหมทัตทรงพามเหสีพร้อมพระราชโอรสเสด็จประพาสป่า จนพบนางยักษ์แปลงเป็นสาวสวยทำเล่ห์กลจนท้าวพรหมทัตลุ่มหลง ต่อมาท้าวพรหมทัต ได้จึงสั่งประหารมเหสีและพระโอรส แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยไป 



สุพรรณมัจฉา จากเรื่อง รามเกียรติ์

        นางสุพรรณมัจฉา เป็นธิดาของทศกัณฐ์กับนางปลา เป็นพี่น้องร่วมบิดากับนางสีดา ถึงแม้นางจะเป็นถึงธิดาของเจ้าผู้ครองกรุงลงกา แต่เจ้าหญิงองค์นี้ ก็ไม่มีโอกาสจะอยู่ในเวียงวังดังผู้อื่น เพราะนางอยู่ได้เฉพาะแต่ในน้ำ ดังนั้นที่อยู่ของนางจึงอยู่กลางทะเลใหญ่
เบญจกาย จากเรื่อง รามเกียรติ์


       นางเบญกาย เป็นธิดาของพิเภกและนางตรีชฎา ในคราวที่ทศกัณฐ์ทราบว่า พระรามยกทัพข้ามมาถึงกรุงลงกา ทศกัณฐ์ได้สั่งให้นางเบญกายแปลงกายเป็นนางสีดาแกล้งทำเป็นตายลอยน้ำไปที่ค่ายพระราม เพื่อให้พระรามหมดกำลังใจรบ จะได้ยกทัพกลับไป



สีดา จากเรื่อง รามเกียรติ์

        นางสีดาคือพระลักษมีจุติลงมาตามบัญชาของพระอิศวรเพื่ออัญเชิญพระนารายณ์อวตาร นางสีดาเกิดจากนางมณโฑและทศกัณฐ์ พิเภกได้ทำนายดวงชะตานางสีดาว่าจะเกิดมาทำลายเผ่ายักษ์ นางจึงถูกทิ้งให้ลอยน้ำมาในผอบทอง ดังนั้นพระฤาษีชนกก็รับเลี้ยงนางสีดาเป็นธิดา ต่อมาเมื่อนางได้อภิเษกกับพระราม และเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเมื่อนางถูกทศกัณฐ์จับตัวไปเพื่อให้เป็นมเหสีเนื่องจากความงามเป็นเลิศของนาง จึงเกิดการรบกันระหว่างฝ่ายพระรามและทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องรามเกียรติ์ขึ้น
จิตรางคทา จากเรื่อง มหาภารตะ


        พระราชาแห่งแคว้นมณีปุระเป็นผู้ไร้ราชโอรส มีแต่พระราชธิดาองค์เดียวชื่อ จิตรางคทา (จิด-ตะ-ราง-คะ-ทา) นางมีเรือนร่างแข็งแกร่งบึกบึน มีใบหน้าแสนจะขี้ริ้วขี้เหร่และมีน้ำเสียงแหบห้าวเหมือนผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่ง แถมพระบิดายังทรงเลี้ยงดู จิตรางคทา ในแบบของผู้ชายแท้ ทั้งสอนให้ฝึกหัดขี่ม้า ฝึกปรือเพลงอาวุธทุกชนิดอย่างแคล่วคล่อง จนไม่มีชายใดอยากได้นางเป็นคู่ครอง  



สาวิตรี จากเรื่อง ภควัทคีตา


        นางสาวิตรี เป็นบุตรของมหาราชอัชวาปตีกับมหารานีมัลวี ซึ่งมหาราชอัชวาปตีนั้น ไม่มีบุตรชายเลย จึงได้ทำพิธีภาวนาต่อพระแม่มาเตสวาตี (พระแม่กายาตรี) ถึง 16 ปี จนพระแม่มาประทานพรให้ แต่เนื่องจากในโชคชะตาของมหาราชนั้น ไม่ได้มีพรของบุตรชายเลย พระแม่จึงได้มอบบุตรสาวที่เก่งกาจสามารถ มีสติปัญญา และรูปโฉมอันงดงามให้ เทวฤาษีนารัทมุนีได้ตังชื่อให้เด็กน้อยว่า สาวิตรี นางเป็นหญิงที่ฉลาดและงดงามมาก จนไม่มีชายใดกล้ามาสู่ขอ มหาราชอัชวาปตีจึงได้มอบหมายให้นางออกหาสามีเอง จนกระทั่งนางได้พบกับพระสัตยวาน บุตรของอดีตมหาราชจันทราเซนซึ่งตาบอด 



ทมยันตี จากเรื่อง พระนลคำหลวง 

         นางทมยันตี เป็นธิดาของพระเจ้าภีมราชแห่งเมืองคันธปุระ เมื่อโตเป็นสาวก็มีพระสิริโฉมงดงามและเป็นกุลสตรีที่ดี ต่างก็ร่ำลือกันไปไกลจนถึงสวรรค์ ส่วนพระนลเป็นเจ้าชายเมืองนีษระ เป็นคนเก่ง ฉลาด และรูปลักษณ์งดงามมาก ต่างก็ยกย่องและร่ำลือกันไปไกล เมื่อทั้งคู่เติบโตอยู่ในวัยหนุ่มสาวต่างก็ใฝ่ฝันและถวิลหาซึ่งกันและกัน